จากประเด็นผงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำ ใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีการทดลองหรืองานวิจัยที่สนับสนุนผลของการนำผงเบกกิ้งโซดามาผสมน้ำดื่มเพื่อลดกรด ซึ่งเบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต ในทางการแพทย์มีการใช้แบบชนิดเม็ดสำหรับช่วยลดสภาวะกรดในกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ซึ่งยาดังกล่าวควรใช้ตามคำสั่งของแพทย์ และปฏิบัติตามฉลากการใช้ยาอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (20 ก.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อความแนะนำ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ผงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำ ใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากสูตรยาลดกรดในกระเพาะแบบประหยัด ด้วยการดื่มผงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันยังไม่มีการทดลองหรืองานวิจัยที่สนับสนุนผลของการนำผงเบกกิ้งโซดามาผสมน้ำดื่มเพื่อลดกรด หรือวิธีการรักษาใดๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิด อาการปวดบีบท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ได้ ซึ่งเบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตมีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี และมีความเป็นด่างเล็กน้อย เมื่อทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำจะเกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ คนส่วนมากนิยมนำเบกกิ้งโซดา ไปหมักเนื้อสัตว์เพื่อทำให้นุ่ม, ล้างสารพิษในผัก และผลไม้ และใช้เป็นส่วนประกอบของผงฟูในการทำเบเกอรี่ โดยในทางการแพทย์มีการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) เป็นยา ทั้งชนิดสารละลายที่ใช้ในโรงพยาบาลสำหรับรักษาภาวะเลือดเป็นกรดขั้นรุนแรง และชนิดเม็ดที่ใช้โดยทั่วไปสำหรับช่วยลดสภาวะกรดในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย โดยเป็นยาที่ควรใช้ตามคำสั่งของแพทย์และปฏิบัติตามฉลากแนะนำการใช้ยาอย่างเคร่งครัด
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สามารถติดตามได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือ โทร 1556
"ผง" - Google News
July 20, 2020 at 11:09AM
https://ift.tt/2WBQEPk
ข่าวบิดเบือน! ผงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำ ใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร - ผู้จัดการออนไลน์
"ผง" - Google News
https://ift.tt/3cmY1Pu
0 Comments:
Post a Comment